วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

บันทึก: ก เอ๋ย ก เกมส์

วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่เวลาไม่กล้าเข้ามายุ่งกับผม เพราะขืนเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเข้ามา
อาจโดนผม ฆ่าเวลาเอาได้ (^_^) เพราะในมือผมมีหนังสือเป็นอาวุธในการฆ่าเวลาอยู่เล่มหนึ่ง
แต่แทนที่หนังสือจะได้ทำหน้าที่ของมัน
ผมกลับถูกดึงความสนใจไปที่ เด็กน้อยกลุ่มหนึ่งในร้านเกมส์ออนไลน์
พวกเขากำลังสนุกสนานกับการผจญภัยในแดนต่างๆ ของเกมส์
ที่ผมสนใจไม่ใช่เกมส์ที่เด็กๆเล่นแต่เป็นเกมส์ที่ผมเล่นตอนที่อายุเท่ากันมากกว่า

ในช่วงอายุที่เท่ากัน เกมส์ที่ผมและเพื่อนๆเล่น
ไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกใดๆเข้ามาร่วมสนุกกับพวกผมเลย
สงสัยว่าเส้นทางในการเดินมายังบ้านเกิดของพวกผมจะยากลำบากมากเกินไป
(บ้านนอกนะเอง ฮ่าๆๆ)
แต่นั้นไม่ได้ทำให้ชีวิตในวัยเด็กของผมหมดสนุกไป กลับกัน
มันกลับเป็นความทรงจำที่หอมหวานทุกครั้งที่นึกถึง
เกมส์ต่างๆที่เล่นกันมีอยู่หลายเกมส์ แต่ละเกมส์ไม่พ้นการคลุกฝุ่น
เปรอะเปื้อน แก้มมอมกันทุกวันไป
(เดือนร้อนคุณแม่ที่ต้องคอยซักเสื้อผ้า ^^!! )
ที่สำคัญทุกเกมส์ล้วนแล้วแต่ ต้องวิ่งๆ ลุกๆ นั่งๆ มากกว่าที่จะอยู่นิ่งๆ
เหมือนเด็กพวกนี้ที่กำลังอยู่หน้าคอมฯ

เกมส์แรกเป็นเกมส์ที่ต้องอาศัยฝีนื้วมากกว่า ฝีมือนั้นคือการเล่น ลูกแก้ว
การเล่นลูกแก้วมีหลายแบบ อีหลุม” “ อีเส้น” “หม้อหรือ ปากระป๋อง
(อย่างหลังนี้อาศัย ฝีปามากกว่าฝีนิ้ว)
ปล. ชื่อเกมส์มันเป็นภาษาเหนือบ้านผมน่ะครับ บางคนอาจจะไม่เข้าใจ ฮ่าๆๆๆ
ความเร้าใจของการเล่นนอกจากความภูมิใจในการเป็นผู้ชนะ ซึ่งแสดงถึงความเป็นยอดฝีนิ้วแล้ว
การได้ลูกแก้วของผู้แพ้คนอื่นๆ ไปไว้ในครอบครอง เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้การเล่นสนุกมากขึ้น
การที่เดินกลับบ้านพร้อมกับได้ยินเสียงกระทบกันของลูกแก้วที่มีอยู่ตุงกระเป๋ากางเกง
มันทำให้ผมอมยิ้มได้ตลอดทาง...(^___^)

หนังว๊อง(หนังยางเส้น) เป็นเกมส์หนึ่งที่ต้องอาศัยฝีดีดเป็นอย่างมาก
กับการที่ต้องใช้ยางเส้นคู่ใจดีดยางเส้นหนึ่งให้ออกมาจากกองยางเส้น
โดยไม่ให้ยางเส้นที่ไม่ได้กำหนดกระเด็นตามออกมา
ถือเป็นความท้าทายและเป็นการโชว์เทพ พลัดกันยิงคนละที ในระยะที่ตกลงกันไว้
ใครมือยาวจะได้เปรียบกว่าเพื่อนคนที่แขนสั้นกว่า (^__^)
การบ่งบอกถึงฝีมือจะสามารถดูได้จากข้อมือของแต่ละคน
ใครชนะบ่อยจำนวนยางที่ใส่ไว่ที่ข้อมือก็จะมีมากตามไปด้วย
สำหรับคนที่ไม่ค่อยจะคุ้นเคยกับชัยชนะ
ก็สามารถที่จะเพื่มฐานะยางของตนเองได้ด้วยการไปซื้อมาใส่
แต่สำหรับผม..ไม่!! ยางที่นอนสงบนิ่งบนข้อมือผมฝีมือล้วนๆ!!
(เรื่องจริ๊งงงง (อ่านเสียงสูงนิดๆ))

ลูกข่างเป็นอีกเกมส์หนึ่งที่ตื่นเต้นมาก
เกมส์นี้ได้ความสะใจล้วนๆ ลูกข่างที่จะเข้าไปอยู่ในวงกลม แล้วให้ข่างลูกอื่นๆรุมโทรมและสร้างบาดแผล
คือลูกข่างที่เจ้าของของมัน ใช้เวลาในการ โจ๊ะตอนเริ่มเกมส์นานที่สุด(ช้าที่สุด)
การที่สามารถฝากรอยเดื่อยไว้บนลูกข่างของคนอื่นถือเป็นความสะใจอย่างยิ่งยวด
หากใครที่ฝีมือเข้าขั้น ประกอบกับการขวางลูกข่างที่หนักหน่วง
จะสามารถแยกร่างของลูกข่างเป้าหมายได้โดยง่ายดาย
และทำให้เจ้าของลูกข่างลูกนั้นต้องหายหน้าไปจากวงการระยะหนึ่ง
เพื่อไปหาไม้ และทำลูกข่างลูกใหม่
แต่อย่างหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจคือ ทำไมผมมักต้องเป็นคนที่หายไป !!(T_T)

ความจริงมีอีกหลายเกมส์ที่ทำให้ชีวตในวัยเด็กของผมหาความสนุกได้ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วย
ซ่อนหา” …“โดดยาง” …“สะพานสี”… “ปล่อยดาวเทียม(วิ่งไล่จับ)
 …“เตย” …“อีแส่ะ …“หมากเก็บ”… “มอญซ่อนผ้า
สังคมอาจเปลี่ยนเร็วเกินไป จนทำให้เกมส์เหล่านี้ปรับตัวไม่ทัน
ทยอยล้มหายตายจากไป หรือการเดินทางมาของเกมส์ออนไลน์
ทำให้พื้นที่ของเกมส์เหล่านี้ถูกริบรอน

นึกๆไปถ้าผมเดินเข้าไปบอกเด็กๆพวกนั้นว่า
มีเกมส์ที่สนุกไม่แพ้เกมส์ออนไลน์พวกนี้ และไม่ต้องเสียตังค์ซักกะบาท
ไม่รู้เด็กเหล่านั้นจะเชื่อผมไหม


บันทึกเกมส์ : ผู้เวียนว่าย กับ นายละเล่น

หนังสือ: สงสัยมั๊ย? ธรรมมะ

ตั้งแต่สมัยตัวยังเล็ก ยังเป็นเด็กน้อย
ถ้อยคำเกี่ยวกับ “การทำบุญ”  ทยอยเข้าหู อยู่เนื่องๆ
คงเพราะบ้านเรา เป็นเมืองพุทธ เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่า ประชากรค่อนประเทศ นับถือพระพุทธศาสนา

ครั้นพอโตมา ผมเริ่มศึกษาและสนใจใน
คำสั่งสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น
จึงสนใจคำว่า “ทำบุญ” มากขึ้น เพราะที่ผ่านๆมา
การทำบุญสำหรับผม
ก็คือการบริจาคเงิน บริจาคสิ่งของให้กับวัด
บางทีก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปเฉียดวัดมากเท่าไร จึงทำให้คิดว่า
โอกาสในการทำบุญน้อยเหลือเกิน
และก็คงมีแต่ผู้เฒ่าผู้แก่เท่านั้น
ที่มีโอกาสใกล้ชิดกับการทำบุญ




แต่ด้วยเพราะหนังสือเล่มนี้ ทำให้ผมรู้ว่า
[]…ความหมายของการทำบุญคืออะไร
[]…การทำบุญมีหลากหลายช่องทางไม่เฉพาะแค่การบริจาคเงิน
[]…การทำบุญที่ไม่ต้องใช้เงินก็มี
[]…การทำบุญแบบไหนที่ได้กุศลและผลบุญใหญ่หลวง
[]…การทำบุญไม่ใช่ว่าทำกับใครก็ได้บุญเท่ากัน
หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมตาสว่าง  และทำให้ผมรู้ว่า
[]…การทำบุญ ง่ายกว่าที่เราคิดเยอะเลย  การทำบุญอยู่ที่ใจ ใช่ที่เงิน

หากจะมีอะไรสักอย่าง ที่เราสามารถนำเอาติดตัวไปได้
หลังจากความตายมาเยือน สิ่งนั้นก็น่าจะเป็น
[]…บุญกุศลที่เราได้ทำไว้ก่อนตาย

เมื่อไม่รู้ว่าวันสุดท้ายของผมจะมาถึงเมื่อไร เมื่อไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผมในวันพรุ่งนี้
ตราบเท่าที่ลมหายใจยังมี ผมขอสะสมบุญกุศลให้มากที่สุด เท่าที่คนๆหนึ่งจะทำได้
เพื่อหวังว่ามันจะเป็นเสบียงให้ผม ในยามที่ผมต้องใช้มัน….

ได้เวลาหรือยัง ที่เราจะเริ่มสะสมบุญกัน…….
ปล. ขอให้ทุกท่านโชคดีในการทำบุญครับ (^__^)


บันทึกบุญ : ผู้เวียนว่าย กับ นายบอกบุญ

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

บันทึก: วงกลมของฉัน

วงกลมคุณใหญ่ไหม?” เคยมีคนถามผม..ผมถามกลับไป อะไรคือวงกลม?”
เขาเสริมว่า “ก็ถ้าเปรียบคนเราเป็นวงกลม วงกลมของคุณจะมีขนาดเท่าไร? (-__-)!!
คำถามถูกจุดขึ้นพร้อมการจากไปของผู้จุด

ผมสามารถที่จะปล่อยมันเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของผมไปได้โดยที่ไม่ต้องไปสนใจมัน
แต่สมองมันกลับไม่ยอม มันปิดประตูหูทั้ง 2 บังคับให้คำถามพาตัวเองเข้าสู่สมอง
นั้นสิ…วงกลมของผมมีขนาดเท่าไร” “แล้วเราจะเอาอะไรมาวาดวงกลมของเราหล่ะ?

ว่าแล้วผมก็เริ่มวาดวงกลมวงแรกของผมผ่าน ดินสอฐานะ
[]…ได้รูปวงกลมที่แสนจะเล็กจิ๋ว แทบจะมองไม่เห็น ดูแล้วแสนจะยากจน
เปลี่ยนมาเป็น ปากกาหน้าผิว (พรรณ)
[]…ก็ได้วงกลมที่ออกคล้ำๆ ผิวไม่เนียน แถมดำอีกต่างหาก ^^!!
ต่อมาผมใช้ พู่กันความรู้อีกสักที
[]…ไม่แตกต่าง!! มันไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเลย ….ทำไมมันเล็กจังหว่า!!!

ยิ่งตอนที่เราไปชอบใครสักคน เมื่อเทียบกันแล้ว วงกลมของเธอมันช่างใหญ่โตซะจริงๆ
ไม่ว่าจะใช้อะไรวาด วงกลมของเธอก็ออกมาเป็นวงกลมวงใหญ่
แล้ววงกลม 2 วงนี้จะไปด้วยกันได้เหรอ? ความต่างของขนาดมันเยอะเกิน
…….ยิ่งคิดยิ่งเล็ก……….ยิ่งเล็ก

ผมเก็บคำถามและขนาดวงกลมของผมส่งผ่านจดหมายมือถือไปให้เพื่อนคนหนึ่ง
เพื่อนที่ผมมอบตำแหน่งศิราณีให้(โดยที่เจ้าตัวไม่รู้)
ผมไม่ได้รับคำตอบว่าวงกลมของเขาใหญ่แค่ไหน แต่มีข้อความกลับมาว่า

คนเราแต่ละคนมีวงกลมขนาดเฉพาะตัว เป็นเอกเทศ
มันไม่มีขนาดเล็กหรือใหญ่หรอก ที่มันเล็ก หรือใหญ่
เพราะเราเอาไปเทียบกับวงกลมของคนอื่นต่างหาก
“ขนาด”มันไม่สำคัญเลย สิ่งที่อยู่ในวงกลมต่างหากที่สำคัญ
 วงกลมวงใหญ่ที่ข้างในไม่มีอะไรเลย จะมีประโยชน์อะไร
แม้เป็นวงกลมที่ไม่ใหญ่ แต่ข้างในนั้นเต็มไปด้วย
สิ่งสวยงาม สิ่งดีงาม และความจริงใจ
นั่นต่างหากที่จะถือเป็นวงกลมที่น่าภูมิใจ”….

...ที่ผ่านมาผมอยู่อย่างมีความสุข
[]…ทั้งๆที่ผมไม่ได้มีฐานะร่ำรวย
[]…ผมสามารถหาความอบอุ่นได้เสมอ ในครอบครัวที่พร้อมหน้า
[]…ชีวิตผมมีสีสัน แสนสนุก เพราะมันถูกแต่งแต้มด้วยฝีมือของเพื่อนๆ ทั้งหลาย
[]…สิ่งสวยงามบนโลก ผมสามารถเข้าไปหามันได้เสมอโดยไม่ต้องจ่ายค่าดู
ผมจึงคิดได้ ที่ผ่านมาผมใช้อุปกรณ์ผิด!!!

วงกลมของผมไม่เหมาะที่จะใช้ของแบบนั้นวาด ผมวาดมันอีกครั้ง
คราวนี้ผมใช้ เมจิกใจผมใช้ใจในการวาดวงกลม
แม้วงกลมของผมจะไม่ได้ใหญ่ขึ้น
แต่มันชัดเจนกว่าเดิม ……(^_^)

ผมมีวงกลมที่พอดีกับผมอยู่แล้ว
...แล้วคุณหล่ะ? ..วงกลมคุณเป็นแบบไหน?


บันทึกวงกลม : ผู้เวียนว่าย กับ นายวงกลม