วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บันทึก : การเดินทาง

หญิงชายมากมาย หลายพ่อหลากแม่ มีโอกาสท่องเที่ยวเดินทาง ไปยังต่างถิ่นต่างแดน
ได้พบได้เห็นหลายสิ่งที่อยาก บ้างอยากให้ตราตึงอยู่ตลอดไป
แต่บางอย่างก็เข็ดขยาดที่ไม่อยากเข้าไปเฉียดใกล้อีกเป็นครั้งที่2
เราจะรู้ไหมว่าใครคนไหนที่ เดินทางมากที่สุดบนโลกใบนี้
แต่จะเป็นไรไหมที่จะยกแชมป์ของการเดินทางให้กับ เวลา”…

เวลาหาเคยสนว่า สิ่งรอบตัวจะเป็นเยี่ยงใด
จะร้อนระอุ จะแผดเผา จนเหมือนกายจะแหลกเป็นเถ้าละอองธุลี
จะหนาวยะเยือกเย็นจับจิต จนมิอาจทำได้มากกว่าขดตัวงอขอความหนาวช่วยคลายลง
หรือจะเป็นเสี้ยวเวลาที่หลายคนจมลึกอยู่กับนานาห้วงอารมณ์
หรือไม่ว่าทุกอย่างในจักรวาลจะเคลื่อนไหวไหลลื่นไปเช่นไร
…“เวลาก็ไม่เคยหยุดเดิน”…

บางคนอ้อนวอนขอกับสิ่งที่ตนมองไม่เห็นและไม่แน่ใจว่ามี
เพียงให้หน่วยเวลาของตน เพิ่มขึ้นให้มากกว่าที่เคยมี
เพื่อให้ตนสามารถจัดการกับสิ่งต่างๆที่มีได้ครบถ้วน
บางคนจินตนาการอยากให้เวลา เหนื่อยและหยุดเดินบ้าง
ในขณะที่ตนคลุกเคล้าอยู่กับบางอย่างที่ตนยินดีและพอใจ
จนยากที่จะทำใจให้สิ่งนั้นเดินจากไปพร้อมๆกับเวลาที่เดินผ่าน
ซ้ำร้าย หลายรายอยากกระตุ้นหรือใส่สารเร่งลงไปให้เวลารีบเดินล่วงเลย
เพื่อให้สิ่งที่ตนไม่อยากเจอจางหายไป
และอีกหลายบทบาทที่เราอยากหยิบยื่นให้กับเวลา
เพียงเพื่อให้ตนได้รับสิ่งที่ตัวเองต้องการ

 เวลา ตกเป็นจำเลยของสังคมโดยที่เจ้าตัวไม่ได้มีส่วนกับหลายสิ่งที่ถูกนำไปกล่าวอ้างถึง
เวลาไม่ได้เป็นแพทย์และไม่ได้ถือครองโอสถทิพย์
ที่จะสามารถรักษาเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำหรือกำลังร่ำไห้ได้
เวลาไม่สามารถสร้างอุณหภูมิติดลบที่สามารถแช่แช็งช่วงเวลา
ของความประทับใจไว้ให้ใครบางคนได้นานเท่านาน
เวลาไม่มีกระเป๋าที่เอาไว้ใส่นรกในใจของใครบางคนที่กำลังเผชิญอยู่ต่อหน้า
เวลาไม่ใช่ตุลาการตัดสินในการพิสูจน์ใครบางคน
เวลาเป็นเพียงสิ่งสมมุติ สากลที่ทำหน้าที่ของมัน คือ เดินไปเรื่อยๆ....

แล้วหากมีใครสักคนที่อุตริพยายามเข้าใจว่าเวลาอยากบอกอะไรกับทุกสิ่งบนโลกกันแน่
โดยจะขอถือวิสาสะสรุปสารที่ส่งมาจากเวลา...ว่า

"การเดินของเวลาเป็นเพียงประจักษ์พยานของ การเปลี่ยนแปลงที่ไร้ความถาวร มั่นคง
ทุกอย่างมีการแปรเปลี่ยนเสมอทุกวินาที เช่นไรก็เช่นนั้น
ฉะนั้นจะมีค่าอะไรที่จะสร้างความยึดมั่น ถือครองและวาดฝัน
ว่าบางอย่างจะอยู่ยงยั่งยืนนานไปชั่วนิรันดร์
ฉะนั้นจงเป็นหนึ่งเดียวกับการเปลี่ยนแปลงให้ได้ แล้วจะสามารถอยู่เหนือกาลเวลา
แต่หากคิดฝืนต่อต้านและสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา
ก็ควรพร้อมรับและเตรียมตัวกับบาดแผลที่อาจฝั่งลึก
และสร้างความเจ็บปวดแสนสาหัสให้กับตัวเองในยามที่การเปลี่ยนแปลงมาถึง

.หลายคนสนใจกับการเดินทางของเวลา แต่ละเลยการเดินทางของใจภายใน
จนวันที่ต้องจากไป พึ่งรู้ว่าใจตนเองหาได้ออกเดินทางไปไหนเลย แม้เพียงเศษก้าว
แต่กลับย้ำอยู่กับที่ตั้งแต่เกิดจนต้องจากไป

ต้องให้เวลาเดินไปไกลขนาดไหน ใจจึงจะเริ่มออกเดินทางตาม
มุ่งสู่ปลายทางที่เป็นจุดจบและเป็นนิรันดร์

 บันทึกการเดินทาง: ผู้เวียนว่าย กับชายนักเดินทาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น